top of page

ลุกมาน (สอนลูก)

  • Writer: จักรินทร์ แม้นมินทร์
    จักรินทร์ แม้นมินทร์
  • Aug 23, 2017
  • 1 min read

ซูเราะฮฺ ลุกมาน (Luqman) ซูเราะฮฺ ลำดับที่ 31

12. และโดยแน่นอน เราได้ให้ฮิกมะฮฺ (*1*) แก่ลุกมานว่า “จงขอบพระคุณต่ออัลลอฮฺ” และผู้ใดขอบคุณ แท้จริงเขาก็ขอบคุณตัวของเขาเอง และผู้ใดปฏิเสธ แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงพอเพียงและทรงได้รับการสรรเสริญ (*2*)

(1) ฮิกมะฮฺในที่นี้หมายถึงความรู้พิเศษ คือความถูกต้องในการพูด ความเฉลียวฉลาดในความคิดเห็น และการพูดที่สอดคล้องกับความจริง มุญาฮิดกล่าวว่า ฮิกมะฮฺหมายถึงความรู้ความเข้าใจ สติปัญญาที่เฉียบแหลม และความถูกต้องในการพูด ลุกมานมิได้เป็นนะบีแต่เป็นผู้ได้รับความรู้พิเศษจากอัลลอฮฺ มีหะดีษรายงานว่า “ลุกมานมิได้เป็นนะบีแต่เขาเป็นบ่าวที่มีสติปัญญาใคร่ครวญมาก มีความเชื่อมั่นอย่างดี เขารักอัลลอฮฺ ตะอาลา พระองค์ก็รักเขาแล้วทรงประทานฮิกมะฮฺให้แก่เขา”

(2) คือผู้ใดขอบคุณพระเจ้าของเขา ผลบุญแห่งการขอบคุณย่อมกลับไปหาเขา อัลลอฮฺ ตะอาลา จะไม่ได้อะไรเลยจากการขอบคุณของเขา และการปฏิเสธศรัทธาของผู้ปฏิเสธก็จะไม่เกิดโทษแก่พระองค์

13. และจงรำลึกเมื่อลุกมานได้กล่าวแก่บุตรของเขา โดยสั่งสอนเขาว่า “โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าได้ตั้งภาคีใด ๆ ต่ออัลลอฮฺ เพราะแท้จริงการตั้งภาคีนั้นเป็นความผิดอย่างมหันต์ โดยแน่นอน“ (*1*)

(1) การตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺนั้นเป็นที่น่าเกลียดและเป็นการอธรรมอย่างชัดแจ้ง เพราะเป็นการวางของไม่ถูกที่ผู้ใดที่ให้ความเท่าเทียมกันระหว่างผู้สร้างกับสิ่งที่ถูกสร้าง แน่นอนเขาผู้นั้นย่อมเป็นผู้เบาปัญญา

14. และเราได้สั่งการแก่มนุษย์เกี่ยวกับบิดา มารดาของเขา โดยที่มารดาของเขาได้อุ้มครรภ์เขาอ่อนเพลียลงครั้งแล้วครั้งเล่า (*1*) และการหย่านมของเขาในระยะเวลาสองปี เจ้าจงขอบคุณข้า (*2*) และบิดามารดาของเจ้า (*3*)ยังเรานั้น คือการกลับไป

(1) คือเราได้ใช้ให้เขาทำความดีต่อบิดามารดา โดยเฉพาะมารดาของเขาที่ได้อุ้มครรภ์เขา ซึ่งนางจะอ่อนเพลียลงทุกวัน ตั้งแต่วันตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอด (2) คือจงขอบคุณพระเจ้าของเจ้าต่อความโปรดปรานแห่งการอีมานและความดีที่ได้ประทานให้แก่เจ้า

(3) จงขอบคุณบิดามารดาของเจ้าต่อความโปรดปรานแห่งการอบรมเลี้ยงดูเจ้า คือถ้าเขาทั้งสองบังคับให้เจ้าปฏิเสธศรัทธาและตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ เจ้าอย่าได้เชื่อฟังเขาทั้งสองเพราะไม่มีการจงรักภักดีต่อสิ่งที่ถูกบังเกิดในการฝ่าฝืนพระผู้ให้บังเกิด

15. และถ้าเขาทั้งสองบังคับเจ้าให้ตั้งภาคีต่อข้า โดยที่เจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น เจ้าอย่าได้เชื่อฟังปฏิบัติตามเขาทั้งสอง (*4*) และจงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำความดี (*5*) และจงปฏิบัติตามทางของผู้ที่กลับไปสู่ข้า (*6*) และยังเรานั้นถือทางกลับของพวกเจ้า ดังนั้น ข้าจะบอกแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้ (*7*)

(1) แม้ว่าเขาทั้งสองจะเป็นมุชริก ก็มิได้เป็นเหตุให้บุญคุณในการอบรมเลี้ยงดูต้องสูญเสียไป

(2) ด้วยการให้ความเป็นเอกภาพ การเชื่อฟัง และการทำความดี

(3) คือพระองค์จะทรงตอบแทนพวกเขาตามผลงานของพวกเขา เคล็ดลับจากการใช้ให้ทำความดีต่อบิดามารดาโดยรวมอยู่กับคำสั่งสอนของลุกมาน ก็เพื่อย้ำถึงสิ่งที่ได้จากอายะฮฺก่อนซึ่งประณามการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ (4) คือความชั่วหรือความผิดนั้นจะน้อยนิดสักปานใดก็ตาม

16. “โอ้ลูกเอ๋ย แท้จริง (หากว่าความผิดนั้น) มันจะหนักเท่าเมล็ดผักสักเมล็ดหนึ่ง (*1*) มันจะซ่อนอยู่ในหิน หรืออยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย หรืออยู่ในแผ่นดิน อัลลอฮฺก็จะทรงนำมันออกมา แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง”

(1) ความชั่วหรือความผิดจะเล็กน้อยสักปานใด และซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกของแผ่นดินหรือสูงสุดในท้องฟ้าพระองค์ก็จะนำมันออกมาเพื่อสอบสวน หมายถึงว่าการงานของปวงบ่าวนั้นจะไม่เป็นที่ซ่อนเร้นต่อพระองค์

17. “โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจงใช้กันให้กระทำความดี และจงห้ามปรามกันให้ละเว้นการทำความชั่ว และจงอดทนต่อสิ่งที่ประสบกับเจ้า (*1*) แท้จริง นั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่น มั่นคง” (*2*)

(1) คือจงอดทนต่อความยากลำบาก ความยากแค้น และภัยพิบัติต่าง ๆ เพราะผู้ที่เรียกร้องไปสู่สัจธรรมนั้นย่อมเผชิญกับการถูกทำร้ายอยู่เสมอ (2) ในกิจการดังกล่าวน้นเป็นส่วนหนึ่งจากการที่อัลลอฮฺทรงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และทรงใช้ให้กระทำ อิบนฺอิบบาส กล่าวว่า ส่วนหนึ่งจากการมีความศรัทธาอย่างแท้จริงคือ การอดทนต่อความทุกข์ยากความลำบากนานาประการ

18. “และเจ้าอย่าหันแก้ม (ใบหน้า) ของเจ้าให้แก่ผู้คนอย่างยะโส และอย่าเดินไปตามแผ่นดินอย่างไร้มรรยาท (*4*)แท้จริง อัลลอฮฺ มิทรงชอบทุกผู้หยิ่งจองหอง และผู้คุยโวโอ้อวด”

(1) คือเดินอย่างเย่อหยิ่งจองหอง

19. “และเจ้าจงก้าวเท้าของเจ้าพอประมาณ และจงลดเสียงของเจ้าลง (*5*) แท้จริง เสียงที่น่าเกลียดยิ่งคือเสียง(ร้อง) ของลา”

(1) เพราะการพูดเสียงดังเป็นการกระทำที่น่าเกลียด ซึ่งสุภาพชนที่มีปัญญาแล้วจะไม่กระทำกัน

ศึกษาเพิ่มเติมต่อได้ที่ http://www.alquran-thai.com/Showsurah.asp?SurahNo=31&wPage=1

.

.

 
 
 

Commenti


Address

Bangkok, Thailand

Contact

Follow

  • Facebook

02 543 2227,098 283 3945

©2017 by โรงเรียนภูมินทรวิทยา. Proudly created with Wix.com

bottom of page