กุรอาน กับ รอมฏอน

เรามุสลิมทุกคนต้องให้ความสำคัญกับการอ่านอัลกุรอ่าน

ทุกเวลาที่เขาว่างจากภาระกิจไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน

โดยเฉพาะการอ่านในเวลาละหมาดตารอเวียะห์

สมควรอ่านซูเราะห์ให้ยาวเท่าที่เรามีความสามารถที่จะกระทำได้

และมีความเหมาะสมที่มะอมูมจะละหมาดตามได้

ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัมจะอ่านซูเราะห์

ในละหมาดกิยามุลลัยลิของเดือนรอมฏอน

ยาวกว่าการละหมาดในเดือนอื่นๆ

ท่านฮุไซฟะห์ได้เล่าว่า

ท่านเคยละหมาดตามหลังท่านนบีในเดือนรอมฏอน

ท่านนบีเริ่มอ่านซูเราะห์บากอเราะห์,

อาละอิมรอน,

นิซาอุ,

จนกระทั่งท่านเสร็จละหมาดได้เพียงชั่วครู่

ท่านบิล้าลก็เข้ามาอาซานซุบฮิ

นั้นแสดงถึงความอดทน

ของท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม

ในการทำอิบาดะห์ แต่มิได้หมายความว่า

เราจำเป็นจะต้องละหมาดให้ยาวนานกับท่านนบี

พระองค์ฮัลลอฮกล่าวว่า

“ สูเจ้าทั้งหลายจงยำเกรงต่ออัลลอฮเท่าที่ท่านสามารถ “

อัลกุรอ่านกับการถือศีลอด

เป็นชาฟะอะห์ในวันกิยามะฮ์

อิบาดะห์สองชนิดนี้มีความพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติ

เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากพระองค์ในวันกิยามะฮ์

เมื่อบ่าวคนหนึ่งต้องเหน็ดเหนื่อย

กับการอ่านอัลกุรอ่านในยามค่ำคืนอดหลับอดนอน

เพื่อแสวงหาความพอใจจากพระองค์อัลลอฮฺ

และถือศีลอดในตอนกลางวันด้วยความเคร่งครัด

และระมัดระวังข้อห้ามต่างๆ

ดังปรากฎรายงานจากท่านอับดุลลอฮบินอัมรุได้กล่าวว่า

“ แท้จริงท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

: การถือศีลอดและกุรอ่านนั้น

จะเป็นสิ่งให้ความช่วยเหลือแก่บ่าวในวันกิยามะฮ์

การถือศีลอดจะกล่าวว่า

: โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน

ฉันได้ยับยั้งเขาจากอาหารและอารมณ์ใฝ่ต่ำในตอนกลางวัน

ได้โปรดนำฉันเป็นสิ่งช่วยเหลือเขาด้วยเถิด

และกุรอ่านได้กล่าวว่า

: ฉันห้ามเขาไม่ให้หลับนอนในตอนกลางคืนของรอมฏอน

ได้โปรดนำฉันเป็นสิ่งช่วยเหลือต่อเขาด้วย

ดังนั้นสองสิ่งนี้จึงได้รับอนุมัติ ( จากอัลลอฮ )

ให้เป็นสิ่งช่วยเหลือได้

(-รายงานโดยอะหมัด-)

(ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่)

http://www.anwarulislam.ac.th/main/content.php?page=sub&category=15&id=217

.

.

.