top of page

ความดีต่างๆ ในรอมฎอน

  • Writer: จักรินทร์ แม้นมินทร์
    จักรินทร์ แม้นมินทร์
  • Apr 16, 2018
  • 1 min read

แท้จริงอัลลอฮฺ ได้ทรงทำให้เดือนรอมฎอน

มีลักษณะเฉพาะด้วยกับคุณลักษณะพิเศษที่ยิ่งใหญ่

นั่นก็คือ การที่บรรดาอามั้ลที่ดีทั้งหลาย

จะถูกตอบแทนด้วยการเพิ่มผลบุญ

และพระองค์ทรงตอบแทนโดยไม่สามารถคำนวณนับได้

1. ถือศีลอด

(ด้วยกับความศรัทธาและหวังในผลตอบแทน)

ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า “ผู้ใดที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน

ด้วยความศรัทธามั่นและหวังในผลบุญ

บาปของเขาที่ผ่านมาจะถูกอภัยโทษให้ ”

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

2. ยืนละหมาดยามค่ำคืน

(กับความศรัทธาและหวังในผลตอบแทน)

ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า “ผู้ใดยืน (ละหมาดยามค่ำคืน)

ในเดือนรอมฎอน ด้วยความศรัทธาและหวังในผลบุญ

บาปของเขาที่ผ่านมาจะถูกอภัยโทษให้”

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

3. ให้มากในการศอดาเกาะ

(บริจาคทาน)

ท่านรอซูล เป็นคนที่เอื้อเฟื้อมากที่สุด

และท่านจะเอื้อเฟื้อมากยิ่งไปอีก

ในช่วงที่มลาอิกะฮฺญิบรีลมาพบท่าน

ในเดือนเราะมะฎอน

โดยเขาจะมาพบท่านในทุกค่ำคืน

ของเดือนเราะมะฎอน

แล้วญิบรีลก็จะศึกษา

ทบทวนอัลกุรอานกับท่าน

และแท้จริงท่านรอซูล นั้น

เป็นคนที่เอื้อเฟื้อความดี

(ใจบุญอย่างกว้างขวาง)

มากมายยิ่งกว่าลมที่หอบ พัดเสียอีก

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

4. เลี้ยงอาหารแก่บรรดาผู้ถือศีลอด

ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า

“ผู้ใดเลี้ยงอาหารอาหารแก่ผู้ถือศีลอด

เขาจะได้รับผลบุญ

เท่ากับผลบุญของผู้ถือศีลอดคนนั้น

โดยที่ผลบุญของผู้ถือศีลอดคนนั้น

ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด”

(รายงานโดย อะหมัด หะดิษ ศอเหียะชัยคฺของอัลบานีย์)

5. อ่านอัลกุรอานให้มาก

ท่านรอซูล ท่านได้กล่าวว่า

“การถือศีลอดและอัลกุรอานนั้น

จะมาให้ความช่วยเหลือแก่บ่าวในวันกิยามะฮฺ

การถือศีลอดจะพูดว่า ‘โอ้ผู้อภิบาลแห่งข้า

ข้าได้สกัดกั้นเขาจากอาหาร

และการสนองความใคร่ในยามกลางวัน

ดังนั้นได้โปรดให้ข้าช่วยเหลือเขาด้วยเถิด’

อัลกุรอานก็จะพูดว่า ‘โอ้ผู้อภิบาลแห่งข้า

ข้าได้สกัดกั้นเขาจากการหลับนอนในยามค่ำคืน

ดังนั้นได้โปรดให้ข้าช่วยเหลือเขาด้วยเถิด’

แล้วทั้งสองก็ได้รับอนุญาตเพื่อให้ความช่วยเหลือ”

(รายงานโดย อะหมัด หะดิษ ศอเหียะชัยคฺของอัลบานีย์)

6. ใช้ความพยายามใน10 คืนสุดท้าย

ปรากฏว่าท่านรอซูล

เมื่อท่านเข้าสู่ 10 คืนสุดท้าย

จะทำร่างกายให้กระฉับกระเฉง

ทำให้กลางคืนมีชีวิตชีวา

และจะปลุกคนในครอบครัวให้ลุกขึ้นมา

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

7. แสวงหาคืนอัลก็อด

ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า

“พวกท่านจงแสวงหา

ลัยละตุลก็อดรฺในคืนคี่

ของสิบคืนสุดท้ายในเดือนรอมฎอน

และท่านกล่าวว่า

"ผู้ใดที่ลุกขึ้น

(ละหมาดหรือประกอบอิบาดะฮฺ)

ในค่ำคืนเราะมะฎอน

ด้วยเปี่ยมศรัทธา

และหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ

เขาจะได้รับการอภัยโทษจากความผิด (บาป) ที่ผ่านมา”

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

8. ทำอุมเราะในเดือนรอมฎอน

ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า

“การทำอุมเราะในเดือนรอมฏอน

เทียบเท่ากับการทำหัจญ์”

หรือกล่าวว่า “ทำหัจญ์พร้อมกับฉัน”

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

9. เอียะติก๊าฟ

ปรากฏว่า ท่านรอซูล

ได้ทำการเอียะติก๊าฟในช่วง 10 คืนสุดท้าย

ของเดือนรอมฏอนจนกระทั้งอัลลอฮฺได้เอาชีวิตของท่านไป

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

10. ให้มากในการำลึกถึงอัลลอฮฺ

และหมั่นขออภัยโทษและขอดุอาอฺจากพระองค์

ท่านนบี ได้กล่าวว่า

"แท้จริงในทุกๆ วันและคืน

ของเดือนรอมฎอนของมุสลิม

จะมีดุอาอ์จะถูกตอบรับ"

(รายงานโดย อัลบัซซาร ศอเหียะขอชัยคฺอัลบานีย์)

11. รักษาการละหมาดห้าเวลา

พร้อมกับญะมาอะ

และรักษาละหมาดซุนนะรอวาติบ

ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า

“ไม่มีมุสลิมคนใดเมื่อเขาได้ละหมาด

โดยที่เขาได้อาบน้ำละหมาดอย่างดี

ละหมาดคุชูอฺอย่างดี และรุกูอฺอย่างดี

นอกจากเขาจะได้รับการไถ่ถอน(อภัย)

จากความผิดต่างๆ ที่เขาได้กระทำก่อนหน้านั้น

ตราบใดที่เขาไม่ได้กระทำบาปใหญ่

และ(การอภัยนี้)เป็นเวลาที่ชั่วนิรันดร์"

(รายงานโดยมุสลิม)

12. แสดงความสุภาพต่อกัน

และผินหลังจากบรรดาผู้โฉดเขลาทั้งหลายเถิด

ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า

”และเมื่อวันที่คนใดคนหนึ่ง

ในหมู่พวกท่านถือศีลอดแล้ว

ก็จงอย่าพูดจาหยาบคาย

และจงอย่าตะโกนโห่ร้อง

และเมื่อมีคนหนึ่งด่าว่าท่าน

ท่านก็จงกล่าวเถิดว่า

แท้จริงฉันเป็นคนที่ถือศีลอด”

และท่านกล่าวว่า

“ผู้ใดก็ตามที่ไม่ละทิ้งการพูดเท็จ

และยังปฏิบัติอยู่อีก (ในขณะที่ถือศีลอด)

รวมทั้งยังทำพฤติกรรมเยี่ยงคนเขลาอยู่

ดังนั้นไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลยสำหรับอัลลอฮ์

ที่เขาจะ(ต้องเหน็ดเหนื่อยเพื่อ)อดอาหารและเครื่องดื่มของเขา”

(มุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่

http://www.islammore.com/view/2784

.

.

.

 
 
 

Comments


Address

Bangkok, Thailand

Contact

Follow

  • Facebook

02 543 2227,098 283 3945

©2017 by โรงเรียนภูมินทรวิทยา. Proudly created with Wix.com

bottom of page